ม.อ. ขอแสดงความยินดีกับ ศาสตราจารย์ ดร.เบญจมาส เชียรศิลป์ คว้าทุนเมธีวิจัยอาวุโส วช. ประจำปี 2568
สำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภศิลป์ มณีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา เป็นผู้แทนอธิการบดี พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.สันทัด วิเชียรโชติ รองคณบดีฝ่ายวิจัย นวัตกรรมและวิเทศสัมพันธ์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร ร่วมแสดงความยินดีกับ ศาสตราจารย์ ดร.เบญจมาส เชียรศิลป์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร ในโอกาสได้รับทุนเมธีวิจัยอาวุโส วช. ประจำปี 2568 โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น วช. และเมธีวิจัยอาวุโส วช. ประจำปี 2568 ภายในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025)” ณ ห้อง Lotus Suite 5-6 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568
โดยผู้ที่ได้รับทุนศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น ประจำปี 2568 ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.ธนาภัทร ปาลกะ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีผู้ได้รับทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัย (เมธีวิจัยอาวุโส) ประจำปี 2568 ดังนี้
1. ศาสตราจารย์ ดร.ตะวัน สุขน้อย จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
2. ศาสตราจารย์ ดร.ปฏิพัทธ์ ทวนทอง จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
3. ศาสตราจารย์ ดร.ชาติ เจียมไชยศรี จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
4. ศาสตราจารย์ นพ.รุ่งโรจน์ พิทยศิริ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
5. ศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล
6. ศาสตราจารย์ ดร.เบญจมาส เชียรศิลป์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
7. ศาสตราจารย์ ดร.สิริชัย อดิศักดิ์วัฒนา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
8. ศาสตราจารย์ ดร.ณรงค์ฤทธิ์ ธรรมบุตร จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
9. รองศาสตราจารย์ ดร.นวณัฐ โอศิริ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
10. ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ศิริมล ตรีพงษ์กรุณา จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
11. รองศาสตราจารย์ ดร.นิจ ตันติศิรินทร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สำหรับทุนศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น และทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัย (เมธีวิจัยอาวุโส) นี้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร และยกระดับขีดความสามารถด้านการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ ต่อยอดงานวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ครอบคลุมทั้งภาคการผลิต ภาคบริการ สังคม และชุมชน อันจะนำไปสู่การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และการเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต