ทุนที่มีคุณค่าที่สุด คือการสร้างวัฒนธรรมของชาว ม.อ. ให้มีสำนึกของการ ‘ยึดถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง’
นายสมพร ใช้บางยาง กรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ให้เกียรติปาฐกถาพิเศษ เรื่อง คุณค่าสงขลานครินทร์ที่ส่งต่อสู่สังคมและชุมชน ภายในงานคุณค่าสงขลานครินทร์ ประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัย ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยนายสมพร ได้กล่าวถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชนตั้งแต่แรกก่อตั้ง จนได้สร้างผลงานให้ประชาชนมีความมั่นใจในศักยภาพ และบทบาทหน้าที่เพื่อสังคม โดยการร่วมทำงานกับทุกภาคส่วน มีการวิจัยเชิงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนจนเป็นที่ประจักษ์ พัฒนาและก่อคุณูปการให้กับสังคมและชุมชน

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้จัดตั้งขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลในขณะนั้นที่จะจัดตั้งมหาวิทยาลัยในภูมิภาคขึ้น เพื่อสร้างคุณูปการรองรับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของภูมิภาคนั้น ๆ รวมทั้งเพื่อร่วมกับทุกภาคส่วนในการพัฒนาชุมชน พัฒนาสังคมในภูมิภาคให้เติบโตขึ้นในทิศทางที่ควรจะเป็นในทุกด้าน ความภาคภูมิใจของความเป็น “สงขลานครินทร์” ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานนาม “สงขลานครินทร์” ให้เป็นชื่อของมหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และบ่งบอกชัดเจนถึงภารกิจที่เราต้องตระหนัก เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสถาบันแห่งนี้

เริ่มแรกของการก่อตั้ง คนทั่วไปมักจะมอง “สงขลานครินทร์” ว่าเป็นสถาบันทางวิชาการที่มีภารกิจเฉพาะด้านที่ประชาชนธรรมดาทั่วไปไม่กล้าเข้ามาสัมผัสเกี่ยวข้อง ยกเว้นเยาวชนที่เข้ามาศึกษาเล่าเรียน หรือผู้ที่มาใช้บริการด้านสุขภาพ ขณะเดียวกันในระยะเริ่มต้น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อยู่ระหว่างการพัฒนาภายในองค์กรเพื่อสร้างความเข้มแข็งภายในให้กับสถาบัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนสู่สังคมและเพื่อนมนุษย์ หลังจากการพัฒนาจนมั่นคงเป็นปึกแผ่น จึงได้เริ่มสร้างผลงานการเข้าไปช่วยเหลือสังคม ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจในศักยภาพและบทบาทหน้าที่เพื่อสังคม โดยมีการร่วมมือทำงานกับภาคราชการ เอกชน ภาคประชาสังคม ปราชญ์ชาวบ้าน องค์กรส่วนท้องถิ่น ที่สำคัญคือการน้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการพัฒนา จนเกิดกลุ่มการพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชน มีการวิจัยเชิงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ที่สามารถกอบกู้ชุมชนให้หลุดพ้นจากความยากจน รวมทั้งการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตในภาคใต้ จนเป็นที่ประจักษ์ตามเจตนารมณ์ของผู้บริหารมหาวิทยาลัย ที่ต้องการเห็นการพัฒนาที่ยั่งยืน และก่อคุณูปการให้กับสังคมและชุมชน

นายสมพร ใช้บางยาง ได้นำเสนอหลายแนวคิดเพื่อเป็นแนวทางให้มหาวิทยาลัยส่งต่อคุณค่าสู่สังคม เช่น การจัดกระบวนการในการบริหารจัดการทรัพยากรทุนที่มีอยู่หลากหลาย ให้มาเป็นทุนมหาวิทยาลัยทุนเดียวกัน เป็นการลดภาวะการทำงานแบบต่างคนต่างทำ เพื่อจะได้กระจายไปสู่ชุมชนและสังคมได้มากขึ้น และให้ได้ก่อเกิดประโยชน์ให้มากที่สุด ควรมีการทำวิจัยชุมชน วิจัยปัญหาของสังคมฐานราก และของพี่น้องประชาชนมากขึ้น เพราะแม้ปัจจุบันเรามีนักวิจัยอยู่จำนวนมาก แต่การแก้ปัญหาความยากจนยังเป็นสิ่งต้องทำต่อไป ซึ่งหากสามารถเพิ่มผลงานวิจัยทางสังคม และตอบโจทย์ของชุมชนสังคมที่แท้จริงได้ จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง นอกจากนั้น หากสามารถสร้างนักวิจัยจากชาวบ้านในชุมชนได้ เพื่อนำไปสู่การทำวิจัยด้วยตนเอง และสามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวของเขาได้เอง ก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะได้นำสิ่งดี ๆ ไปสู่คุณค่าของสังคมและชุมชนได้

“การที่จะก้าวไปสู่ความยั่งยืนได้นั้น จะต้องทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะส่วนที่รับผิดชอบโดยตรงในภารกิจนั้น ๆ เพื่อที่ชุมชนจะได้ก้าวเดินต่อไปได้ด้วยตัวเอง มหาวิทยาลัยมีความชัดเจนในเรื่องของพันธกิจและยุทธศาสตร์ ในการสร้างคนที่มีคุณภาพในทางวิชาการและมีคุณธรรม ออกไปรับใช้สังคม แต่การมีทุนทางปัญญาและคุณธรรมอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เพราะทุนที่มีคุณค่าที่สุด คือการสร้างวัฒนธรรมของชาวมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้มีสำนึกของการ ‘ยึดถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง’ ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนก เพื่อเป็นการเติมเต็มในการสร้างคนที่จะออกไปรับใช้สังคม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยและทั่วโลก” นายสมพร ใช้บางยาง กล่าวทิ้งท้าย