เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทยและคณะ เยือน ม.อ. หารือความร่วมมือด้านการศึกษาและวิจัย
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นำโดย ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และบุคลากร ให้การต้อนรับ H.E. Mr. Faiyaz Murshid Kazi เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทย และ Mr. Nirjhar Adhikary, Counsellor ในโอกาสเยือนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาความร่วมมือทางด้านการศึกษาและการวิจัย ระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และสถาบันอุดมศึกษา/หน่วยงานในสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ณ ห้องประชุม 215 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทยและคณะ ยังได้พบปะกับนักศึกษาชาวบังกลาเทศที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และร่วมกิจกรรมละศีลอดและละหมาดมัฆริบ ณ ชั้น 8 สำนักทรัพยากรการเรียนรู้คุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร อีกด้วย


ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี กล่าวว่า การเยือนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ของเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทยและคณะในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทยและบังกลาเทศ โดยเฉพาะในด้านการศึกษาและการวิจัย ซึ่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ นวัตกรรมการวิจัย และขยายความร่วมมือระหว่างประเทศระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในความภูมิใจของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่ได้มีส่วนสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและบังกลาเทศ คือการสร้างความร่วมมือทางวิชาการและการวิจัยกับ Hajee Mohammad Danesh Science and Technology University, Daffodil International University และ National Institute of Preventive and Social Medicine (NIPSOM) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำในบังกลาเทศ ความสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กับบังกลาเทศยังได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายศิษย์เก่าที่เข้มแข็ง ปัจจุบันศิษย์เก่าชาวบังกลาเทศกว่า 60 คน ได้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศในสาขาที่สำเร็จการศึกษา อาทิ พยาบาลศาสตร์ ระบาดวิทยา วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร การจัดการทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง เภสัชศาสตร์ และการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน รวมถึงการที่มีนักศึกษาชาวบังกลาเทศเข้ามาศึกษาที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์อย่างสม่ำเสมอ ยังช่วยขยายความร่วมมือและส่งเสริมความเป็นนานาชาติทางวิชาการ และในอนาคตยังคาดว่าจะมีนักศึกษาชาวบังกลาเทศเพิ่มขึ้น


“การหารือความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในด้านการศึกษาและการวิจัย ตลอดจนการสร้างสรรค์โครงการความร่วมมือใหม่ ๆ ในสาขาที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศ ซึ่งจะมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข เทคโนโลยี และความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม” ผศ. ดร.นิวัติ กล่าวทิ้งท้าย