คณะแพทย์ ม.อ. จัดประชุมวิชาการ มอบรางวัลแพทย์ตัวอย่างภาคใต้ ประจำปี 2567 แก่ “นพ.ประกอบ ลือชาเกียรติศักดิ์”
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย คณะแพทยศาสตร์ จัดประชุมวิชาการประจำปี คณะแพทยศาสตร์ ครั้งที่ 39 การแพทย์อนาคตไร้รอยต่อ (SEAMLESS FUTURISTIC MEDICINE) ระหว่างวันที่ 7 – 9 สิงหาคม 2567 และมอบรางวัล “แพทย์ตัวอย่างภาคใต้ ประจำปี 2567" แก่ นพ.ประกอบ ลือชาเกียรติศักดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิด้านเวชกรรมสาขาศัลยกรรม โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โดย ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี มอบโล่รางวัล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ.กิตติพงศ์ เรียบร้อย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มอบเงินรางวัล ณ ห้องทองจันทร์ หงศ์ลดารมภ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 67




รศ. พญ.สุภาภรณ์ เต็งไตรสรณ์ ประธานคณะกรรมการคัดเลือกแพทย์ตัวอย่างภาคใต้ประจำปี 2567 กล่าวว่า การคัดเลือกแพทย์ตัวอย่างภาคใต้ เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปี ในงานประชุมวิชาการประจำปี คณะแพทยศาสตร์ ซึ่งการคัดเลือกแพทย์ตัวอย่างในปีนี้ เป็นอีกปีหนึ่งที่มีความยากลำบากในการตัดสิน เนื่องจากแพทย์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกล้วนแต่เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติดีเด่นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหลักเกณฑ์สำคัญที่คณะกรรมการกำหนดในการพิจารณาคัดเลือก คือ ต้องเป็นแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ทางการแพทย์ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี มีการให้บริการอย่างมีคุณภาพและสม่ำเสมอโดยคำนึงถึงประโยชน์สุขของผู้ป่วยและส่วนรวม มีความขยันขันแข็ง มีความเป็นผู้นำ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และเลือกใช้หลักวิชาการที่ทันสมัยมาปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนเป็นผู้มีความประพฤติดี มีคุณธรรม จริยธรรม และ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้ร่วมงาน ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วยและบุคคลทั่วไป นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้มีการลงพื้นที่ เพื่อพูดคุยและสัมภาษณ์ผู้เข้ารับการคัดเลือก และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการอีกด้วย ซึ่งทางคณะกรรมการได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกให้ นพ.ประกอบ ลือชาเกียรติศักดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิด้านเวชกรรมสาขาศัลยกรรม รองผู้อำนวยการอาวุโส โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ได้รับรางวัลแพทย์ตัวอย่างภาคใต้ ประจำปี 2567


ด้าน นพ.ประกอบ ลือชาเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับรางวัลแพทย์ตัวอย่างภาคใต้ที่ได้รับในครั้งนี้ เป็นความภูมิใจครั้งหนึ่งในชีวิต จากการทำงานที่ทำโดยไม่ได้หวังผลตอบแทน ถือว่าเป็นรางวัลที่มีเกียรติและมีคุณค่า ซึ่งการทำให้เกียรติประวัติยั่งยืนอยู่ต่อไป นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า ว่าถ้าเรารับรางวัลแล้ว เราจะทำอย่างไรให้สามารถดูแลคนไข้ให้เหมือนเดิม ซึ่งอันนี้น่าจะเป็นเกียรติยศและชื่อเสียงมากกว่าการได้รับรางวัล ต้องขอขอบคุณคณะแพทยศาสตร์ ที่มอบรางวัลนี้ให้ และอยากฝากถึงน้อง ๆ ว่า คนที่มาเรียนแพทย์ต้องเข้าใจว่า งานที่ต้องทำจะหนักอยู่แล้ว ดังนั้น การเป็นแพทย์ต้องรู้ว่า เราต้องเสียสละ แต่ในความเสียสละ เราต้องรู้จักสร้างความสมดุลระหว่างการดูแลผู้ป่วย สร้างความสมดุลระหว่างการดูแลครอบครัว การดูแลตัวเอง ถ้าทำได้จะทำให้การทำงานและใช้ชีวิตในด้านอื่น สามารถมีความสุขควบคู่กันไปได้อย่างสวยงาม